แม่ร้อง ปคม.ลูกออทิสติก 8 ขวบ ถูกศูนย์รับเลี้ยงเด็กย่านสมุทรปราการทารุณ
ทนายรณณรงค์พาแม่เด็กออทิสติกร้อง ปคม.หลังลูกสาววัย 8 ขวบถูกศูนย์รับเลี้ยงเด็กย่านสมุทรปราการทำทารุณ เผยเคยมีเหยื่อแจ้งความ แต่เจออิทธิพลแทรกแซงปิดปากผู้ปกครอง ทำให้เหยื่อหลายคนไม่เอาเรื่องเมื่อเวลา 09.30 น.ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หรือทนายรณณรงค์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย น.ส.ดรุณี (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.ฉัตรามนตรี มหาพชราอรุณใหม่ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน กก.4 บก.ปคม. เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าของศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ใน จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นแพทย์จิตเวชโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง และครูผู้ดูแลรวม 3 คน หลังพบว่าลูกสาววัย 8 ขวบ เป็นเด็กออทิสติก ถูกทารุณกรรมระหว่างการฝากเลี้ยงอยู่ที่ศูนย์ ดังกล่าว และคาดว่ามีเด็กรายอื่นที่ถูกทารุณกรรมจากครูพี่เลี้ยงอีกนับ 10 ราย โดยก่อนหน้านี้มีการแจ้งความร้องทุกข์แล้ว แต่พบว่ามีผู้มีอิทธิพลเข้ามาแทรกแซงโดยการพยายามจ่ายเงิน ทำให้เหยื่อหลายคนไม่เอาเรื่อง
น.ส.ดรุณี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2563 ได้นำลูกสาวไปฝากเลี้ยงและกระตุ้นพัฒนาการที่ศูนย์ดังกล่าว ช่วงแรกไม่พบความผิดปกติ จนกระทั่งช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 ที่มีการห้ามเข้าเยี่ยมเนื่องจากสถานการณ์โควิด จะเข้าเยี่ยมได้ต้องมีการฉีดวัคซีนสองเข็ม ทำให้ตนไม่สามารถเข้าเยี่ยมลูกได้ จนกระทั่งวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ได้ไปรับลูกเพื่อจะกลับต่างจังหวัด ครูที่ศูนย์ดังกล่าวได้แจ้งว่าลูกของตนมีแผลที่ข้อเท้าเนื่องจากแพ้ถุงทรายถ่วงน้ำหนัก เพราะลูกสาวต้องใส่เนื่องจากเป็นเด็กเดินเขย่ง แต่เมื่อถึงบ้านที่ต่างจังหวัด เมื่อตรวจสอบแผลอย่างละเอียดพบว่า ลูกของตนมีแผลที่ข้อเท้าข้างเดียว ทั้งที่ใส่ถุงทรายถ่วงน้ำหนักสองข้าง
มารดาของเด็กผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อพาลูกไปอาบน้ำก็พบว่า ตามตัวลูกยังมีแผลตามร่างกายอีกหลายจุด รวมถึงที่ก้นและบริเวณอวัยวะเพศ ลักษณะเป็นแผลติดเชื้อ เมื่อสอบถามไปทางครูผู้ดูแล อ้างว่าไม่เคยเห็นและไม่เคยเปิดดูบริเวณก้นเด็ก คาดว่าอาจเป็นการแพ้ผ้าอ้อม แต่ส่วนตัวมองว่าลูกดูแลตนเองไม่ได้ ดังนั้นผู้ดูแลควรที่จะเห็น หากไม่เห็นแสดงว่าไม่ได้ดูแลความสะอาดให้ลูกของตนเลย เมื่อพาลูกไปพบแพทย์ แพทย์ได้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากความไม่สะอาดของผ้าอ้อม
น.ส.ดรุณี กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุ ลูกมีความหวาดกลัวหวาดระแวง ไม่พูดไม่ส่งเสียง น้ำหนักลดลง ครูอ้างว่าลูกไม่กินข้าว ทั้งที่เป็นเด็กกินเก่ง เมื่อตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดี เจ้าขอ ศูนย์ มีการติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย และชดใช้ค่าเสียหายให้ตามที่เรียกร้อง อีกทั้งยังยอมรับว่ามีการผูกล่ามข้อเท้าลูกของตน เนื่องจากลูกอยู่ไม่นิ่งและครูต้องดูแลเด็กคนอื่น แต่ตนไม่ยอมรับเงื่อนไขและยืนยันจะดำเนินคดี เพราะรู้สึกเสียใจกับการกระทำดังกล่าวของผู้ดูแล อีกทั้งค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้กับทางศูนย์ ตกเดือนละกว่า 20,000 บาท โดยยังไม่รวมค่าผ้าอ้อมและยา ซึ่งหากรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดน่าจะมากกว่า 300,000 บาท แต่ลูกกลับถูกทารุณกรรมเช่นนี้
ด้าน ทนายรณณรงค์เปิดเผยว่า เบื้องต้น จะให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหา ทำร้ายร่างกายโดยการทารุณกรรม และแสวงหากำไรจากเด็ก ซึ่งหลังแม่เด็กแจ้งความ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ตรวจสอบศูนย์ดังกล่าว จนศูนย์สั่งปิดชั่วคราว แต่หลังจากนั้นตำรวจก็ไม่สามารถสอบปากคำผู้ปกครองของเด็กที่เหลือในศูนย์ฯ อีก 10 คนได้ เพราะผู้ปกครองของเด็กคนอื่นไม่ติดใจเอาความ จึงเชื่อว่าน่าจะมีเด็กถูกทารุณหลาย คนแต่ทางศูนย์ฯพยายามดำเนินการเพื่อปิดปาก.